เทพ-มาร


โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 28 มกราคม 2553

เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มีมติในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคชัดเจนที่จะ “ไม่รับหลักการ” ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา ที่พรรคร่วมรัฐบาลกำลังจะเสนอเข้าพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเร็ววันนี้ ทำให้ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลต้อง “ขบกรามกรอดๆ” อย่างเงียบๆ ด้วยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้อง “จำยอม” ที่ต้องร่วมหัวจมท้ายกับพรรคแกนนำ จะขยับไปไหน ก็มีคน “ตีกรอบ” ให้เข้าที่

ทั้งๆที่ในใจนั้น “แค้น” จากการถูก “เบี้ยว” ในข้อตกลงที่เป็น “สัญญาใจ” ว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ในขณะที่ภายในพรรคประชาธิปัตย์นั้น “อึกอัก” กันหลายคน โดยเฉพาะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องรับหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ทุกวี่ทุกวัน จะรับปากรับคำมาอย่างไร ไม่มีใครยอมเล่า ที่แน่ๆ นายสุเทพ ถึงกับต้องออกปากเตือนว่า ความขัดแย้งเรื่องรัฐธรรมนูญ อาจนำไปสู่การ “ยุบสภา” ก่อนกำหนด 2 ปี

แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีทีท่าว่าสนใจ อาจเพราะประเมินแล้วว่า พรรคร่วมไม่มีทางเลือกมาก ต้องอยู่ใน “กรอบ” ที่ใหญ่กว่า คือการค่อต้าน “ระบอบทักษิณ” ที่มี “ผู้มีบารมี” กำหนดให้เดิน ด้วยแนวทาง “ไม่ลาออก ไม่ยุบสภา ไม่มีการเลือกตั้ง” เพราะหากไปเส้นทางนั้น โพลล์ลับโพลล์เปิดต่างยืนยันชัยชนะของพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่ง “ยอมไม่ได้” จึงต้อง "ยื้อ” ให้ยาวนานที่สุด ส่วนเรื่อง “รัฐประหาร” นั้น ไม่จำเป็น ไม่เข้าตาจนจริงๆ ไม่ทำ!!

ทั้งยังเป็นต่อในเรื่อง “ภาพลักษณ์” ที่ต้องยกให้พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการยืนบน “หลักการ” ไม่สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะหากสนับสนุนการจะถูกมองว่า การดำเนินการเป็นไปเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองอย่างเดียว เมื่อมีมติเช่นนี้ “ภาพ” ที่ปรากฎกลายเป็นว่าพรรคร่วมเป็น “มาร” เห็นแก่ตัวทำเพื่อตนเอง ส่วนประชาธิปัตย์เป็น “เทพ” ที่มีอุดมการณ์

และภาพ “เทพ-มาร” นี้ จะถูกตอกย้ำไปในอีกหลายๆเรื่อง ที่จะทำให้ พรรคฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล กลายเป็น “ผู้ร้าย” ของสังคม ส่วน “พระเอก” นั้น มีได้คนเดียว!!

มองผิวเผินเหมือนนักการเมืองฝ่ายเทพจะทำทุกอย่างเพื่อประชาธิปไตยเพื่อประชาชน และพรรคฝ่ายมารจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของขบวนการ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” ที่เลื่องลือในการเมืองไทยยุคหลังปี 2489 ควบคู่มากับอุบัติขึ้นของพรรคประชาธิปัตย์

แต่หากมองลึกๆไป “ระหว่างบรรทัด” ภายใต้คำพูดอภิปรายที่ “สวยหรู” หรือการโต้ตอบที่ “กักขระ” แทบจะหาสาระที่เป็นประโยชน์กับประชาชนไม่ได้เลย เพราะที่ทำอยู่เป็นแค่การบริหารภาพลักษณ์ หาใช่อุดมการณ์อะไรที่ลึกซึ้งไม่ หรืออย่างมากก็มองเพียงเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ซึ่งก็แปลกที่ไปเชื่อว่าระบบการเลือกตั้งจะช่วยตัวเองได้อย่างนั้นอย่างนี้ตามจินตนาการ เพราะตามข้อเท็จจริงปรากฎในการเลือกตั้งใหญ่ 3 ครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในปี 2544 และ 2548 ซึ่งใช้ระบบ “เขตเดียวเบอร์เดียว” และปี 2550 ที่กลับไปใช้ระบบเขตใหญ่ เลือกเป็น “พวง” 3 คน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือเครือข่ายตัวแทน ชนะการเลือกตั้ง เข้าที่ 1 ทั้ง 3 ครั้ง ในนามพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน

การเลือกตั้งที่มีขึ้น 2 ครั้ง เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ซึ่งยกร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ซึ่งไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเกี่ยวข้อง และพรรคไทยรักไทยก็จัดตั้งขึ้นภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญนั้น ในปี 2542 ในขณะที่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ถูกยกร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญอีกคณะหนึ่ง ภายใต้รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร และมีเป้าหมายชัดเจนที่จะ “สกัด” และ “สลาย” ระบอบทักษิณ จึงยิ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใหญ่

แต่ก็ไม่สามารถทลายปราการของ พ.ต.ท.ทักษิณ สำเร็จได้ทันที ต้องอาศัยคำตัดสินศาล ทั้งในการ “ปลดนายกฯ” และ “ยุบพรรค” ประกอบกับเกมในสภาฯ จึงผลิกแกนได้ เป็นบทพิสูจน์ว่า ไม่ว่าภายใต้การเลือกตั้งระบบไหน จะเปลี่ยนกติกาอย่างไร เครือข่ายเดิมของ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถเอาชนะได้ ซึ่งยังคงสะท้อนใน “โพลล์” ที่ทำกันในปัจจุบัน

เมื่อเป็นเช่นนั้น การแก้กติกาที่ถกเถียงกันจึงไม่มีประโยชน์อันใดถ้าจะคิดแก้เพียงเพื่อเอาชนะ แต่หากจะคิดแก้รัฐธรรมนูญจะต้องมาวางกันให้ชัดถึงประโยชน์ในการแก้ไขที่จะมีต่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่เช่นนั้นข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่ให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ย่อมมีความชอบธรรมมากกว่า

และถ้าจะเอาชนะ พ.ต.ท.ทักษิณ ขบวนการเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง ทั้งเทพทั้งมารต้องกลับไปตั้งหลักใหม่อย่าคิดเพียงว่าเพราะ “เงิน” ที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะเลือกตั้ง ทำให้เสื้อแดงเคลื่อนไหวได้ แต่เป็นเรื่องของการ “ทำงาน” เอา “ชนะใจ” ประชาชน และทำให้เห็นว่าสังคมมีความ “ยุติธรรม” จึงจะทำให้เกิด “ทางเลือก” ในใจคนได้!!

ที่มา: SuranandLIVE

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

newskythailand Gallery

Twitter Updates (thaksinlive)

Red Twitter ทวิตเตอร์เสื้อแดง

จำนวนผู้เยี่ยมชม