ที่แท้ก็พวกเสื้อเหลืองถ่อย
ทัศนคติที่เป็นอันตราย
สื่อชั่วสองมาตรฐาน
"บัวแก้ว"รับรัฐบาลนิคารากัวให้พาสสปอร์ต"ทักษิณ"
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อภิปรายในรัฐสภา
คณะกรรมการสอบสวนข้อมูล 14 ตุลา
เพื่อไทยตั้งกก.เยียวยาเหยื่อสลายม็อบ
สุรวิทย์เป็นประธาน 2.คณะอนุกรรมการ ไต่สวนหาข้อเท็จจริงมีพล.ต.ท.
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการขึ้นมานั้นมาจากจิตสำนึกและ
ความห่วงใยของพรรคที่ต้องการทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการเข้ามาช่วยรัฐบาล กองทัพ และสังคม คลี่คลายปัญหา
และเยียวยาประชาชน ฉะนั้นขอรัฐบาลอย่ารัง เกียจว่าพรรคมีเป้าประสงค์ทางการเมือง เพราะพรรคยืนยันว่าจะไม่
แทรกแซงกระบวน การยุติธรรม หรือยุยงให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ เนื่องจากทุกคนตระหนักว่าความเสียหายนั้นมันมากมเพียงใด
สอบให้ชัดมีม็อบตายหรือไม่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นาย
ส.ส.แพร่ นาย
นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยที่เกิดขึ้นในกทม. จนมีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายที่ไม่ทราบว่ามีมากน้อยเพียงใดนั้น ส่งผลให้พรรควิตกกังวลกับสถานการณ์เพราะมองว่าประชาชนมีความสำคัญประกอบกับส.ส.ของพรรคหลายคนได้ลงพื้นที่และเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือคลี่คลายสถานการณ์เพื่อให้เหตุการณ์กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด รวมทั้งดำเนินการให้ประชาชนเกิดความสบายใจและได้รับรู้
ข้อเท็จจริงที่แท้จริง ดังนั้นพรรคจึงมีมติตั้งคณะกรรม การอำนวยการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบความไม่เรียบร้อยและการสลายการชุมนุม ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการ 4 คณะ 1.คณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์และเยียวยา มี น.พ.ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลและทหารระบุว่า ไม่มีใครเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ข้อมูลนี้เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน นายปลอดประสพ กล่าวว่า เหตุผลที่พรรคแต่งตั้งกรรมการขึ้นมานั้น เพราะข้อมูลสับสน เชื่อถือไม่ได้และขัดแย้งกัน เพราะเหตุการณ์นี้มีการลับ ลวง พราง อยู่ จึงต้องรอสักพักแล้วจะรับทรข้อเท็จจริง ขณะนี้อย่าเพิ่งไปบอกว่าควรเชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะวันนี้ฝ่ายหนึ่งพูดอย่าง อีกฝ่ายบอกไม่ใช่ ดังนั้นต้องสะสางข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ข้อเท็จจริงออกมา เพราะที่ผ่านมาในประวัติ ศาสตร์ไทยหากย้อนกลับไปดูแล้วจะพบว่าเป็นคนละอย่างกับสิ่งที่พูดในปัจจุบัน
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนขอร้องทุกฝ่ายว่าอย่าปลุกปั่นให้คนไทยให้แบ่งสี ทะเลาะและฆ่กันเอง จนประเทศเกิดความอ่อนแอขาด ความสามัคคี โดยเฉพาะที่มีบางคนพยายามนำศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จะยิ่งทำประ เทศเสียหาย ฉะนั้นอย่าเอาชนะกันด้วยการเอาชีวิต และความเชื่อทางศาสนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะเป็นบาปกรรมและผู้ที่รับเคราะห์ก็คือลูกหลานของพวกท่านเอง แต่ควรแก้ปัญหาด้วยการนำเรื่องราวทั้งหมดไปแก้ไขในรัฐสภา
เมื่อถามว่าควรเปิดโอกาสให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า
โดยส่วนตัวนั้นมองว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น หากคนไทยซื่อตรงกับตัวเองและเคารพกฎหมาย แต่เวลานี้โลกมันแคบจะไปห้ามไม่ให้องค์กรเหล่านี้มาสนใจก็คงยาก
สื่อมีอิสระนำเสนอข้อมูลหรือไม่
นาย
ขอถามความรู้สึกของสื่อ
อยากถามความรู้สึกของสื่อ
พวกคุณไม่รู้สึกละอายบ้างหรือไง ที่บิดเบือนความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด คำว่าจรรยาบรรณ ยังสะกดถูกอยู่หรือเปล่า หรือว่าคำนี้มีไว้พูดให้มันเท่ห์ พวกคุณใช้สิทธิของความเป็นสื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามมาแล้วเท่าไหร่ พวกคุณเรียกร้องออกกฎหมายคุ้มครองสื่อ แต่สื่อไม่เคยทำหน้าที่ ที่ควรจะทำ สื่อมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ใส่สีตีไข่ (ไม่เสี้ยม)ทุกวันนี้พวกคุณทำเพื่ออะไร ทำเพื่อเงินอำนาจผลประโยชน์ ที่ฝ่าย ศักดินาหยิบยื่นให้เท่านั้นหรือ เท่าที่ประชาชนคนหนึ่งอย่างเราเห็นการกระทำของสื่อ คือ พวกคุณมีจิตใจอิจฉาริษยาอยู่ในตัว เพราะพวกคุณทำลายคนด้วยปลายปากกา ร่วมมือกันฆ่าประชาชน แบ่งหน้าที่กันทำ เป้าหมายผลประโยชน์ร่วมกัน เท่าที่พูดมานี้ถ้าไม่จริงก็เลิกการกระทำที่กล่าวมานี้เสีย ถ้ายังมีความละอายอยู่บ้างก็หันมาให้ข่าวสารที่เป็นจริงกับทุกฝ่าย กระชากคำว่าจรรยาบรรณที่มันฝังลึกจนขึ้นสนิมออกมาเคาะสนิมออกขัดเงาใหม่ เพื่อพี่น้องร่วมชาติ เพื่อประเทศชาติ ข้อสำคัญคือเพื่อตัวคุณเองเมื่อแก่ตัวหรือตายไปจะได้เป็นเกียรติศักดิ์ศรีแก่วงศ์ตระกูล
ความเกลียดชังที่ยากที่จะเยียวยา
ความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ใช่เพิ่งจะมีในยุคทักษิณ มันเกิดขึ้นมานานแล้ว เกิดจากการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ เจ้าขุนมูนนาย ศักดินา ไพร่ ข้าราชการ คนที่มีความรู้มีโอกาสได้เรียนสูงๆแต่จิตใจไม่พัฒนา คนที่มีเงินมีการศึกษามีชาติตระกูลสูง น้อยคนนักที่จะมีจิตใจเมตตาต่อคนที่ด้อยกว่า อย่างสังคมในปัจจุบัน ประชาชนได้มีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆมากขึ้น แต่ก็นั่นแหละคนที่มีโอกาสมากกว่าก็จะมาเป็นผู้นำเสมอ มาถึงเรื่องการเมือง ทักษิณเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ก้าวเข้ามา หวังจะสลายการแบ่งแยกระหว่าง ศักดินากับไพร่ หลอมรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ให้เป็นสังคมที่สวยงาม ให้มีแต่รอยยิ้ม ให้ทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือกันโอบอุ้มคนที่ด้อยกว่า แต่นั่นมันเป็นได้แค่ความฝันเท่านั้น เขาคิดผิดถนัดเพราะสังคมไทยนั้น ได้แบ่งชนชั้นมายาวนานเกินจะเยียวยา โดยเฉพาะนักการเมืองอย่างประชาธิปัตย์ ความแตกแยกที่เกิดขึ้น คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ประชาธิปัตย์เป็นสาเหตุที่สำคัญในการแตกแยกในครั้งนี้ เพราะทั้งคำพูดและการกระทำ มีแต่ดูถูกดูแคลนคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตนหรือคนที่ไม่เห็นด้วย นับเรียงหน้ากันมาได้เลย เริ่มตั้งแต่หัวหน้าพรรค จนมาถึงสมาชิกพรรคธรรมดา(ชาวบ้าน)แต่ก็ขอยกนิ้วให้พรรคนี้เขามีแม่พิมพ์ที่ขลังมาก ใครเข้ามาอยู่เรียกได้ว่าจะเป็นเนื้อเดียวกันไปเลยทีเดียว พูดจาโอ้อวด ดูถูกดูแคลน เหน็บแนม เสียดสี นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการไม่ลงรอยกันมาตลอด ในแวดวงการเมืองแล้วลุกลามมาถึงประชาชนต่อประชาชนด้วยกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีกองเชียร์ของฝ่ายตน เราก็ได้แต่หวังว่าประชาธิปัตย์จะมีเลือดใหม่ที่ดีมาสร้างความสามัคคีให้เกิดกับสังคมไทย ไม่แบ่งแยกไพร่ ศักดินา ปลูกฝังข้าราชการให้รักประชาชน ทำงานเพื่อประชาชนเพื่อประเทศชาติ เลิกเห็นแก่พวกพ้อง ก็คงจะได้แต่หวังล่ะนะไม่รู้ชาตินี้จะได้เห็นหรือเปล่า