การ Boycott หรือคว่ำบาตรบัวหลวง (ธ.กรุงเทพฯ)



ยุทธศาสตร์การปิดบัญชีบัวหลวง หรือการ Boycott กิจการที่สนับสนุนอำมาตยาธิปไตย หรือเป็นแหล่งทุนให้พวก

อำมาตย์นั้น ถือว่าเป็น "ยุทธวิธีชนะสงครามได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อเลยทีเดียว เป็นอำนาจของประชาชนที่ ต่อให้ใคร

มีอำนาจมากมายแค่ไหน ก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ ต่อให้มีปืน รถถังหรือระเบิดนิวเคลียร์ ก็ไม่อาจต้านทานอำนาจของ "ผู้

บริโภค" ได้ หากคนเสื้อแดงทำอย่างจริงจัง แบงค์บัวหลวงจะล้มภายในเวลาไม่ถึงเดือน และจะ "สะเทือน" อำนาจ

ของอำมาตย์อย่างรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ทีเดียว

เด็ดดอกไม้ แต่สะเทือนดวงดาวแน่นอน

แต่ผมไม่อยากให้ยุทธศาสตร์อันนี้ เป็นไปอย่างสะเปะสะปะ เช่น ไป Boycott สินค้าอื่นๆ หรือธนาคารอื่นๆ แม้ว่าบริษัท

เหล่านั้นจะสนับสนุนอำมาตย์ก็ตาม เพระการเลือกเป้าหมาย "จำนวนมาก" เกินไปนั้น จะไม่เกิดพลังเพียงพอ และไม่

สะเทือนไปถึงพวกเขาอย่างแน่นอน กลายเป็นว่า สินค้าบางชนิดยอดขาดอาจลดลงเล็กน้อย แต่ไม่สะเทือนถึง

อาณาจักรของพวกเขา และไม่เกิดผลแต่อย่างใด

แต่หากเราเลือกเป้าหมายเดียวเช่น แบงค์ที่ว่า ให้ต่างจังหวัดเริ่มก่อน เช่น เชียงใหม่ ที่ดำเนินการไปแล้ว และอุดรธานี

ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของเสื้อแดง ควรจะเริ่มดำเนินการต่อไปทันที หากสองจังหวัดนี้ ปิดบัญชีบัวหลวง จนกิจการ

สะเทือนอย่างรุนแรงได้ ก็จะเกิดปฎิกริยาลูกโซ่ตามมาทันที จังหวัดอื่นๆ อาจทำตาม และสุดท้าย กทม. ที่มีคนเสื้อ

แดงอยู่ไม่ต่ำกว่า 5-6 แสนคน หากคนจำนวนนี้แค่ 20% มีบัญชีบัวหลวงอยู่ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบัญชี และนัดไปปิดพร้อม

กัน หรือไล่เรี่ยกัน ผลที่ตามมาก็จะยิ่งใหญ่ทันที

ถึงอย่างไร รัฐบาลก็ไม่มีทางยอมให้ธนาคารล้มลงไปได้ ก็ต้องหาทางช่วยเหลือ สุดท้ายก็ต้องมีการเจรจาคืนอำนาจ

ให้ประชาชน เพราะหากยังเป็นเผด็จการอยู่ ประชาชนเรียนรู้ที่จะ "แซงค์ชัน" ทางเศรษฐกิจต่ออำมาตย์แล้ว พวกเขา

ย่อมไปไม่รอดอย่างแน่นอน
เราไม่จำเป็นต้องทำกับสินค้าอื่นนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะอ่อนข้อ แต่เพื่อไม่ทำให้ "พลังของการคว่ำบาตรหรือ Boycott" ลด

ลงไป และเป็นการสั่งสอน "เชือดไก่ให้ลิงดู" ด้วยว่า หากยังมีธุรกิจใด สนับสนุนอำมาตยาธิปไตยอยู่ ก็จะโดนไปราย

ต่อไป และในเวลานั้น ผมเชื่อว่า ไม่มีธุรกิจใดที่กล้าท้าทายอำนาจของประชาชนอีกแล้ว พวกเขาจะกระโดดหนีกัน

อย่างพร้อมเพรียงกันแน่นอน แต่ผมไม่ห้ามหากใครจะบอยคอตต์สินค้าเหล่านี้ด้วยตนเอง แช่น ไม่กินมาม่า แต่การ

รณรงค์ใหญ่ ต้องมุ่งโจมตีจุดเดียว และหนักแน่นอย่างเพียงพอ

ที่ต้องเลือกบัวหลวง เพราะมีความเหมาะสมหลายอย่าง เช่น แบงค์นี้สนับสนุน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ที่อยู่เบื้อง

หลังวันสงกรานต์เลือด และเป็น" หัวขบวนใหญ่ของอำมาตย์ และ คุณหญิงกัลยา ลูกสะใภ้ของตระกูลนี้ ก็ยังสนับสนุน

พวกเสื้อเหลือง เราจำต้องปิดบัญชี กับแหล่งทุนของคนเหล่านี้ ทันที

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนี้ต้องระวังอย่างยิ่งคือ แบงค์นี้อาจ "ล็อบบี้แกนนำ" คนเสื้อแดง ให้หันเหไม่เอาจริงเอาจัง

เพราะผมเชื่อว่า หากมีผลกระทบจริงๆ พวกเขายินดีจ่าย ไม่ว่า 100 ล้านหรือ พันล้านอย่างแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้น

พวกเขาจะล้มกันทั้งแบงค์

มวลชนเสื้อแดงต้องหนักแน่นและจริงจังกับเป้าหมายนี้

มีตัวอย่างให้เห็น คือ พวกเสื้อเหลือง พธม. เคยคว่ำบาตร หนังสือพิมพ์มติชน จนหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ต้องยอมก้มหัว

ให้กับพันธมิตร

ทำไมเราไม่ทำอย่างนั้นบ้าง เรามีพลังคนมากกว่า มีมวลชนมากกว่า ย่อมมีพลังกว่า

การนัดชุมนุมประท้วงแบบที่นัดๆ กันอยู่ทุกวันนี้ ผมว่าไม่ได้ส่งผลกระทบอันใดต่อรัฐบาลมากมายนัก เพียงแต่ช่วย

กระตุ้นให้พวกเรารู้สึกคึกคักกันเท่านั้นเอง คนที่วุ่นวายก็คือตำรวจ การนัดชุมนุม จึงควรเป็นเพียงการทำให้เห็นพลัง

ของเราเท่านั้น

แต่เราควร "ยิงหมัดตรงที่ปลายคาง" คือ "การบอยคอตต์หรือคว่ำบาตรบัวหลวง" ให้เห็นผลกับตา

ผมเชื่อว่า ไม่ถึง 3 เดือน อำมาตย์ล้มครืน เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดแน่นอน

ปล. 1 และ Art ตัวแม่ ก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย กับอาวุธอันนี้ของพวกเรา

ปล. 2 ควรกำหนดวัน “ปิดบัญชีบัวหลวง” ในระดับชาติ ที่คนเสื้อแดงทั่วประเทศที่มีบัญชีบัวหลวงไปปิดพร้อมกัน หากทำได้ งานนี้ล้มช้างแน่นอน

เรื่องดีๆเก็บมาไว้ให้อ่าน
ที่มา:http://board.sae-dang.com/Topics.php?viewby=1

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

newskythailand Gallery

Twitter Updates (thaksinlive)

Red Twitter ทวิตเตอร์เสื้อแดง

จำนวนผู้เยี่ยมชม